“กระทรวงสาธารณสุข” จับมือ “กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” หนุนปลูกป่าสมุนไพร ควบคู่ยกระดับแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสร้างงานสร้างรายได้ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่อง การส่งเสริมและพัฒนาแหล่งปลูกสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์เพื่อนำมาใช้ในระบบสุขภาพและเศรษฐกิจ และการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม
นายเดชอิศม์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายด้านเศรษฐกิจสุขภาพ โดยยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์มูลค่าสูง การแพทย์แผนไทย สมุนไพร และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ได้มาตรฐานสากล และผลักดันสู่ตลาดระดับโลก โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาและควบคุมคุณภาพตลอดห่วงโซ่การผลิต เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของในประเทศอย่างมั่นคง ซึ่งสมุนไพรในธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้นั้น
ส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าหรือพื้นที่เขตอนุรักษ์ รวมไปถึงพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่ง กรมการแพทย์แผนไทยจึงทำความร่วมมือกับกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ และกรมทรัพยากรทางทะเล เพื่อพัฒนาพื้นที่ปลูกสมุนไพรในเขตอนุรักษ์อย่างเป็นระบบ มีการศึกษาวิจัยและสร้างแนวทางการใช้ประโยชน์ที่สมดุลกับการอนุรักษ์เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในระบบสุขภาพและเศรษฐกิจ

นายนราพัฒน์ กล่าวว่าพื้นที่ป่าภายในการกำกับดูแลของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีศักยภาพสูงในการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถบำบัดฟื้นฟูสุขภาพกายและใจของประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง 2 กระทรวง เพื่อพัฒนาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้และสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืน
รวมทั้งช่วยให้การแพทย์แผนไทยมีแหล่งวัตถุดิบที่มั่นคงปลอดภัยได้มาตรฐาน เกิดการใช้ประโยชน์พืชสมุนไพรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นไปตามหลักวิชาการ ตลอดจนเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ จากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ และสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปพร้อมกัน สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของประเทศ
ทางด้าน นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิจัย อนุรักษ์ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์สมุนไพรสายพันธุ์ดั้งเดิมในพื้นที่รับผิดชอบของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ และกรมทรัพยากรทางทะเล อย่างถูกต้องเหมาะสมและยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การเพาะปลูกหรือการผลิตในเชิงเศรษฐกิจ สำหรับเป็นวัตถุดิบในการปรุงยาผลิตยา เวชภัณฑ์ หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐาน
รวมถึงการพัฒนายกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยใช้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสุขภาพ ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยและพัฒนาแนวปฏิบัติการเกษตรและการเก็บรวบรวมที่ดีสำหรับการจัดเก็บสมุนไพรในพื้นที่ แลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัยและพัฒนาการปลูกสมุนไพรในพื้นที่ป่า และการเก็บเกี่ยวเพื่อการปรุงยาผลิตยาเวชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้มาตรฐาน เพื่อต่อยอดทางเศรษฐกิจโดยไม่เป็นการทำลายระบบนิเวศ.
ขอบคุณที่มา : thairath